O'hareKibler106

Aus DCPedia
Wechseln zu: Navigation, Suche

วิธีการเจาะดิน ส่วนใหญ่บริษับเจาะสำรวจชั้นดินจะใช้วิธี เจาะแบบฉีดล้าง คือใช้ท่อเหล็กที่เป็นหัวสว่านหรือตัวกระทุ้งกวนดินและใช้น้ำเป็นตัวพาเอาดินออกมาจากหลุมเจาะสำรวจ ขั้นตอนเจาะดินจะเริ่มต้นด้วยการตอกท่อเหล็กป้องกันการเคลื่อนที่ของดินบริเวณหลุมเจาะ (Casing) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้ว และยาวประมาณ 3-6 ม. นำแท่งเหล็กที่เป็นตัวกวนดินซึ่งต่ออยู่กับหลอด (Rod) หย่อนลงไปกวนดิน ท่อส่งเป็นท่อที่มีรูตรงกลาง ขณะเจาะดินจะปล่อยน้ำให้ไหลในท่อส่งไปออกที่หัวกระทุ้งอย่างต่อเนื่อง การเจาะดินจะกระทำอย่างสม่ำเสมอจนได้ความลึกเพิ่มขึ้นโดยลำดับ และจะเก็บตัวอย่างดินทุกๆระยะความลึก 1.50 ม. การเก็บตัวอย่างดินจะดึงหลอดเจาะ (Rod) ขึ้นมาสับเปลี่ยนหัวกระทุ้งเป็นกระบอกเก็บตัวอย่าง ตัวอย่างดินที่ใช้กันอยู่มีสองแบบคือ กระบอกบาง (Thin-wall tube) และกระบอกผ่า (Split spoon tube)


เมื่อได้ดินในหลุมเจาะแล้วจะนำเข้าห้องปฏิบัติการเพื่อหาคุณสมบัติต่างๆ ของตัวอย่างดิน เช่น ปริมาณน้ำในธรรมชาติของดิน (Natural water content), LL. (Liquid Limit), ขีดจำกัดพลาสติก (Plastic Limit), น้ำหนักต่อปริมาตร (Unit Weight) จำแนกจำพวกของดินตัวอย่าง และหาค่าความสามารถในการรับแรงเฉือนของตัวอย่างดิน ฯลฯ


เมื่อเจาะสำรวจดินและทดสอบดินตัวอย่างใน Laboratory Room เรียบร้อยแล้ว ผู้ ทำการเจาะสำรวจดิน จะสรุปเป็นหนังสือผลการทำการเจาะสำรวจดิน ซึ่งโดยรวมรายงานผลการเจาะสำรวจชั้นดินได้แก่ ตารางรายงานผลการทดสอบดินใน Laboratory Room (Summary of Test Result) ภาพตัดแสดงลักษณะชั้นดิน และค่าพารามิเตอร์ต่างๆเทียบกับระยะความลึก (Boring Log) ตารางแสดงความสามารถในการรับน้ำหนักของชั้นดินที่ระยะความลึกต่างๆ ฯลฯ